Monday, June 22, 2009

God and science(3)

ทำไมโลกจึงมีฤดูกาล
ฤดูกาลเกิดขึ้นเพราะโลกของเราเอียง 23 องศา ก่อให้เกิดความงดงามของฤดูกาลและความหลากหลายของชีวิต

ดวงจันทร์มีไว้ทำอะไร
?

ดวง จันทร์ถูกสร้างขึ้นเพื่อรักษาแกนโลกให้สมดุล เพราะความที่ขนาดของดวงจันทร์มีขนาดพอดีๆ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไปทำให้เกิดความสมดุลที่แกนโลก หากไม่มีดวงจันทร์แกนโลกของเราอาจจะขยับ และถ้าแกนโลกขยับ จะก่อให้เกิดภัยพิบัติทางฤดูกาลอย่างรุนแรง
นอกจากนี้ดวงจันทร์ยังทำให้เกิดปรากฏการณ์น้ำขึ้น น้ำลง ปรากฎการณ์นี้ช่วยเติม O2 ให้กับมหาสมุทร และทำให้สัตว์ทะเลดำรงชีพอยู่ได้ และเป็นความสำคัญอย่างสูงต่อห่วงโซ่อาหารทั้งโลก

ความมหัศจรรย์ของน้ำ

เมื่อ อุณหภูมิของน้ำลดลง มันจะจมลงข้างล่าง และเมื่อมันเย็นจัดจนกลายเป็นน้ำแข็งมันจะลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ เพื่อรับความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ ปรากฏการณ์นี้ช่วยให้ก้นทะเลไม่เป็นน้ำแข็ง และสัตว์น้ำรอดชีวิต
แต่หากน้ำเย็นจนเป็นน้ำแข็งและยิ่งจมลง มหาสมุทรจะเริ่มเย็นจากข้างล่างขึ้นมาเรื่อยๆและสัตว์น้ำก็จะอยู่ไม่ได้


บรรยากาศของโลก



Atmosphere


โลก มีชั้นบรรยากาศหนา 25 กิโลเมตร พอดีๆ ซึ่งทำให้อุกาบาตที่ตกลงมาถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศก่อนพุ่งชนโลก และเป็นเกราะป้องกันรังสีต่างๆ และทุกครั้งที่มีฟ้าผ่า จะทำให้ ไนโตรเจน รวมตัวกับ ออกซิเจน และตกลงสู่พื้นดินพร้อมกับฝน เป็นปุ๋ยอย่างดีให้กับพืช ดังนั้นฟ้าผ่าจึงไม่ได้มีไว้สาบานเท่านั้น ^^
หากชั้นบรรยากาศของโลกเบาบางกว่านี้จะทำให้ป้องกันรังสีและอุกาบาตได้ไม่ดี
หากชั้นบรรยากาศของโลกหนากว่านี้จะทำให้โลกกักเก็บความร้อนมากเกินไป ทำให้ไม่สามารถอยู่ได้




ปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชั่นบนดวงอาทิตย์จะเกิด
Solar Wind พัด เข้าสู่โลกด้วยความเร็ว 400 กิโลเมตรต่อวินาที พายุสุริยะจะกัดกร่อนชั้นบรรยากาศไปเรื่อยๆ และสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกจะถูกทำลาย แต่มีสิ่งหนึ่งที่ช่วยป้องกันเราจากพายุสุริยะ นั่นคือสนามแม่เหล็กโลก ซึ่งก่อให้เกิด Van Allen radiation belt ซึ่งป้องกันโลกจากพายุสุริยะ ทำให้เกิดการหักเหพัดพายุสุริยะไม่ให้ Solar Wind พัดเข้าสู่โลกโดยตรง และสิ่งนี้เองที่ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่งดงามนั่นก็คือ แสงเหนือหรือแสงใต้ (ขึ้นอยู่กับว่าเกิดขึ้นบริเวณขั้วโลกซีกเหนือหรือใต้) และทำให้ชั้นบรรยากาศของโลกไม่ถูกทำลาย


Aurora North Light


โลกมีสนามแม่เหล็กห่อหุ้มไว้ นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าอะไรทำให้เกิดสนามแม่เหล็กที่มีคุณค่านี้ ในขณะที่ดาวข้างเคียงของเรา เช่น ดาวอังคาร ไม่มีสนามแม่เหล็กห่อหุ้ม ทำให้ชั้นบรรยากาศถูกกัดกร่อนไปจนหมด แต่ในขณะเดียวกันก็มีการพบว่าสนามแม่เหล็กของโลกกำลังอ่อนแรงลงทุกวันๆ เมื่อสนามแม่เหล็กโลกหมดกำลังลง ดาวเคราะห์สีน้ำเงินดวงนี้ คงไม่ต่างอะไรจากดาวแดงอันร้อนระอุไร้ซึ่งสิ่งมีชีวิตขั้นสูง


การสร้างสรรค์ หรือ ความบังเอิญ

สสารทุกอย่างในโลกประกอบด้วยอะตอม ซึ่งอะตอมก็ประกอบด้วยโปรตอนและอิเล็กตรอน

โปรตอนมีขนาดเพียง 1×1015 เมตร หากขนาดของโปรตอนคลาดเคลื่อนเพียง 0.02% จะไม่เสถียร นั่นหมายถึงจะไม่มี


Hydrogen เมื่อ ไม่มี Hydrogen ก็จะไม่มีน้ำ ถ้าไม่มีน้ำก็จะไม่มีบ่อเกิดแห่งชีวิต คลาดเคลื่อนเพียงแค่เศษเสี้ยวเดียวสรรพสิ่งทั้งหมดที่อุบัติขึ้นบนโลกก็จะ ไม่มีเกิดขึ้น
ดั่งคำกล่าวหนึ่งของทฤษฎีไร้ระเบีบย "เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาว"



ขนาดที่ลงตัวของดวงอาทิตย์

หากดวงอาทิตย์ใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้การระเบิดส่งผลต่อดาวเคราะห์ที่เป็นบริวาร และถ้าดวงอาทิตย์เล็กกว่านี้โลกจะต้องเข้าไปอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเพื่อ รับความอบอุ่น ส่งผลให้โลกต้องหมุนรอบตัวเองช้าลง ซึ่งส่งผลรุนแรงมาก หาก 1 วันยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง อุณหภูมิกลางวันและกลางคืนจะต่างกันอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตไม่อาจเกิดขึ้นได้


ลกและระบบสุริยะของเรา อยู่ในตำแหน่งที่พอดีๆในทางช้างเผือก คือห่างจากใจกลางกาแล็กซีประมาณ 27,000 ปีแสง และอยู่ระหว่าง Spiral arm พอดีทำให้เราไม่ถูกชนโดยระบบสุริยะอื่นๆ และเราไม่โดนผลกระทบในใจกลางจากการระเบิดของ Super Nova ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในใจกลางกาแล็กซี นอกจากนี้ระบบสุริยะของเราทั้งระบบเคลื่อนที่ด้วยความเร็วของแกนการหมุนของ ทางช้างเผือกพอดี

การโคจรของ โลกรอบดวงอาทิตย์กลมพอดี ทำให้อุณหภูมิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก หากโคจรเป็นวงรีจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอุณหภูมิอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตไม่อาจก่อกำเนิดได้


ตำแหน่งของโลก

อยู่ในบริเวณที่เรียกว่า Life Zone ซึ่งหากอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไปจะทำให้ร้อนเกินไป
หากอยู่ไกลเกินไปจะทำให้หนาวเย็นจนอยู่ไม่ได้






ขนาดที่พอดีๆของดวงอาทิตย์

หากดวงอาทิตย์ใหญ่เกินไปจะทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์แบบ ทำให้การระเบิดส่งผลต่อดาวเคราะห์ที่เป็นบริวาร และถ้าดวงอาทิตย์เล็กกว่านี้โลกจะต้องเข้าไปอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเพื่อ รับความอบอุ่น ส่งผลให้โลกต้องหมุนตัวเองช้าลง ซึ่งส่งผลรุนแรง หาก 1 วันยาวนานกว่า 24 ชั่วโมง อุณหภูมิกลางวันและกลางคืนจะต่างกันอย่างรุนแรง สิ่งมีชีวิตไม่อาจเกิดขึ้นได้

ทำไมโลกจึงต้องมีน้ำถึง 2 ใน 3
น้ำในมหาสมุทรช่วยในการ buffer ไม่ ให้อุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืนต่างกันมากจนเกินไป นอกจากนี้กระแสน้ำอุ่นและน้ำเย็นที่ไหลเวียนในมหาสมุทร ทำให้อุณหภูมิในเขตศูนย์สูตรและขั้วโลกไม่ต่างกันมากเกินไป


แล้วถ้าโลกหมุนเร็วขึ้นล่ะจะเกิดอะไรขึ้น
ถ้าโลกหมุนเร็วขึ้นกว่านี้ 8 ชั่วโมง จะเกิดพายุพัดด้วยความเร็ว 500 ไมล์ต่อชั่วโมง เกิดขึ้นตลอดเวลา


ระบบสมดุลออกซิเจน

ออกซิเจน จะต้องถูกควบคุมเป็นอย่างดี ถ้าวัฏจักรของออกซิเจนสูญเสียไป ออกซิเจนจะหมดไปในเวลาเพียง 5,000 ปี สิ่งที่ควบคุมออกซิเจนคือ พืช สัตว์กินพืช และสัตว์กินเนื้อ
หากไม่มีสัตว์กินเนื้อ สัตว์กินพืชจะมีจำนวนมากเกินไป ทำให้พืชถูกกินจนหมดสิ้น
หากไม่มีสัตว์กินพืช พืชจะมีอยู่มากเกินไป และเผาผลาญคาร์บอนไดออกไซด์จนหมด
ดังนั้นปริมาณสัตว์กินพืชและสัตว์กินเนื้อต้องพอดี เพื่อรักษาปริมาณออกซิเจนและคาร์บอนไดออกไซด์
คาร์บอน ไดซ์ออกไซด์เป็นก๊าซเรือนกระจกช่วยกักเก็บความร้อนเอาไว้ คาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไปโลกจะร้อนจัด คาร์บอนไดออกไซด์น้อยเกินไปโลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็ง



ทำไมโลกจึงมีขนาดเท่านี้
โลกของเราเล็กเกินไปไหม?
หากโลกเราใหญ่กว่านี้ 2 เท่า เราจะหนักขึ้น 4 เท่า
แต่ทำไมดาวพฤหัสจึงมีขนาดใหญ่กว่าโลกของเราหลายเท่า
ความใหญ่โตของดาวพฤหัสทำให้มีแรงดึงดูดมหาศาล ดึงดูดอุกาบาตรเอาไว้




หาก ไม่มีดาวพฤหัสโลกของเราจะมีโอกาสถูกดาวหาง อุกาบาต ดาวเคราะห์น้อย พุ่งเข้าชนมากถึง 10,000 เท่า ซึ่งหมายถึงว่าสิ่งมีชีวิตจะถูกทำลายจนหมดสิ้นเพราะอุกาบาต

No comments:

Post a Comment